ไม่เคยกลัว!! “ตู่ จตุพร” กวักมือท้า “โทนี่” รีบกลับไทยมาทำให้จบๆ ประเทศจะได้ไปต่อ

ไม่เคยกลัว!! “ตู่ จตุพร” กวักมือท้า “โทนี่” รีบกลับไทยมาทำให้จบๆ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “สุดลิ่ม ทิ่มประตู” เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ว่า นักวิเคราะห์คาดชื่อย่อ ส.เสือตัวใหญ่เป็น “ส.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” จะเป็นแคนติเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เพราะมีความมุ่งมั่น ฝ่าฟันอุปสรรคไปจนถึงสิ่งต้องการมากกว่า ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งทั้งคู่เป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ ส.สุรเกียรติ์ เคยเสนอตัวเป็นตัวแทนจากไทยเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ แต่ไม่ได้รับเลือก กระทั่งเกิดการยึดอำนาจปี 2549 จากนั้นก็หายไปจากการเมืองร่วม 18 ปี แล้วต่อมามีภาพปรากฎถึงการรับใช้ราชวงศ์

อีกทั้ง นายจตุพร ระบุถึงชื่อ ร.ต.อ. ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ฉายาคนดีไม่เสื่อม ในสมัยพรรคไทยรักไทย เป็นเลขาธิการพรรค และเป็น รมว.มหาดไทย ยุครัฐบาลทักษิณ เช่นกัน แต่ได้รับความนิยมจากสมาชิกพรรคมากกว่าคนเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งส่อถึงอาการลำบากและอยู่ยากในทางการเมือง จากนั้นก็หายวับไปอีกคน

ส่วนการดีลทางการเมืองนั้น แม้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยปฏิเสธ แต่ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความบังเอิญ เนื่องจากมีปรากฎการณ์ปี 2562 พรรคไทยรักษาชาติ (เครือข่ายทักษิณ-พรรคเพื่อไทย) เสนอชื่อราชวงศ์เป็นแคนติเดตนายกฯ มาแล้ว จนสร้างความตกตะลึงให้ทุกพรรคการเมือง

“วันนั้น ถ้าได้เดินหน้าต่อไป การเมืองก็ไม่รู้จะเดินหน้าอย่างไร รัฐบาลก็ไม่รู้อย่างไร ฝ่ายค้านก็ไม่รู้จะอภิปรายอย่างไร ส่วนการหาเสียงก็คงยาก และทำไม่ถูกเลย ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขจะเดินยากมากที่สุด ดังนั้น ผมได้บอกว่า การคิดเกมใหญ่ต้องการชนะคนเดียวทั้งกระดานการเมืองแล้ว เมื่อต้องเสียก็ล้มทั้งกระดานเช่นกัน”

พร้อม ระบุว่า หลังจากศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ THE iCON GROUP คนคิดเกมใหญ่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว โดยสองวันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 มีการจัดงานแต่งงานที่ฮ่องกง จนเกิดปรากฎการณ์ฮ่องกงเอฟเฟคขึ้นอย่างสุดทางเลือกในสองด้านการเมือง คือ หนึ่งฝ่ายขวาสุดจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคพลังประชารัฐ และสองพวกซ้ายสุดต้องเอานายธนาธร จึ่งรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ส่วนพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ อยู่ในสภาพสูญเสียทางการเมือง

พร้อมตอกย้ำว่า มาครั้งนี้ ขณะที่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้น ชื่อ “ส.สุรเกียรติ์” ถูกเชื่อมโยงภาพเป็นบุคคลจงรักภักดีและทำงานใกล้ชิดสถาบันกษัตริย์จะเป็นแคนติเดตนายกฯ ของเพื่อไทย แม้ส่วนตัวมีความต้องการเป็น “นายกฯ” ตามความอยากของมนุษย์ แต่ความเหมาะสมในสถานภาพของบุคคลในปัจจุบัน โลกติเตียนได้ ซึ่ง ส.สุรเกียรติ์ ควรต้องรู้ว่า อะไรเป็นอะไร และควรทำอย่างไร

“ผมเชื่อว่า ส.สุรเกียรติ์ จะตัดสินใจอย่างไร ก็ต้องรู้ผลลัพธ์โลกติเตียนตามมา แม้เรื่องนี้เป็นเพียงทางการข่าว ประติดประต่อเชื่อมโยงการทาบทามเพื่อไปบรรลุเป้าหมายกลับบ้านโดยไม่ใช้กฎหมาย แต่ถึงที่สุดก็ไม่ง่ายตามความประสงค์ของใครก็ตาม”

นายจตุพร ย้ำว่า การตัดสินใจจะกล้บบ้านของทักษิณ ตนเรียกร้องให้กลับมาในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็ได้ แม้มีการวิเคราะห์จะกลับก่อนเลือกตั้ง แต่ขอให้กลับมาเลย เพราะเป็นสิ่งดีที่จะทำให้ทุกอย่างได้จบ ไม่มีการค้างคาใจกับความขัดแย้ง จนประเทศไม่สามารถก้าวข้ามกับดักได้เลย

อีกทั้งย้ำว่า ทันทีทักษิณประกาศกลับบ้าน เท่ากับชุบชีวิตการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฟื้นคืนกลับมาอีก จนกลายเป็นทางเลือกระหว่างกลยุทธ์ “ใครไม่เอาประยุทธ์ เลือกทักษิณ” และ “พวกไม่เอาทักษิณ เลือกประยุทธ์” ซึ่งยิ่งทำให้ความขัดแย้งจะดำรงอยู่ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง แล้วส่อเป็นชนวนวิกฤตทุกเรื่องราวของประเทศไม่มีวันจบสิ้น